ขนมครก

ขนม.jpg

ขนมครก เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งน้ำตาลและกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลาจะรับประทานต้องแคะออกมา เป็นแผ่นวงกลม แล้วมักวางประกบกันตอนรับประทาน เป็นขนมของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ยังพบในพม่า ลาว และอินโดนีเซีย โดยชาวอินโดนีเซียเรียกว่าเซอราบี

ประวัติ

มีหลักฐานว่าขนมครกเป็นที่นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีการทำเตาขนมครกขายตั้งแต่ยุคนั้น ขนมครกแต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำ โม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ขนมครกชาววังจะมีการดัดแปลงหน้าขนมครกให้แปลกไปอีก เช่น หน้ากุ้ง (แบบเดียวกับข้าวเหนียวหน้ากุ้ง) หน้าไข่ หน้าหมู (แบบเดียวกับไส้ปั้นสิบ) หน้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม

ประเภทของขนมครก

ขนมครกมอญ

เป็นขนมเก่าแก่ของชาวมอญ ปัจจุบันเหลือที่ชุมชนมอญตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีเพียงแห่งเดียว ใช้ข้าวเหนียวดิบแช่น้ำจนชุ่มมาละเลงในเบ้าขนมครก ไส้เป็นมะพร้าวทึนทึกขูด น้ำตาลทรายและงาคั่ว เคล้าให้เข้ากัน

ขนมครกชาววัง

เป็นขนมครกที่เทแป้งลงในเบ้าให้ติดๆกัน และมีหน้าหยอด หลากหลาย เช่น เผือก มัน ฝอยทอง ฯลฯ เวลาสุกจะร่อนออกมา แล้วจึงตัดแบ่งออกรับประทาน

ส่วนผสม


    </div>
    </li>
    “>

  1. * ตัวแป้งขนม
  2. แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย
  3. หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
  4. หางกะทิ 1+1/2 ถ้วย
  5. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
  6. ** หน้าขนม
  7. หัวกะทิ 1 ถ้วย
  8. ดอกเกลือ (ใช้เกลือธรรมดาก็ได้ค่ะ) 1/2 ชช.
  9. ใบต้นหอมซอย 1 ชต.
  10. *** น้ำมันมะพร้าว ใช้เช็ดถาดขนม 2 ชต.

ขั้นตอน

    </div>

    </div>


    เพิ่มรูป

    </div>

    </div>


    เพิ่มรูป

    </div>

    </div>


    เพิ่มรูป

    </div>

    </div>


    </div>
    </div>
    </div>
    </li>
    “>

  1. วิธีทำ

    ผสมแป้ง น้ำตาลทราย ใส่หัวกะทิลงไป นวดแป้งให้เข้ากันดี เติมหางกะทิ คนให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 2 ชม.

    เตรียมหน้าขนม ผสมกะทิ ดอกเกลือ คนให้เข้ากัน แล้วใส่ใบหอมซอยลงไป

    ตั้งถาดขนมครกบนเตา ใช้ผ้าทำเป็นลูกกลมๆ เหมือนลูกประคบ ชุบน้ำมันเช็ดให้ทั่วถาด
     รอจนถาดร้อนดี ตักแป้งที่เตรียมไว้หยอดลงไป ปิดฝาไว้สักพักพอแป้งเริ่มสุก หยอดหน้าขนมครกลงไป แล้วปิดฝาต่ออีก 3 นาที หรือจนหน้าขนมสุก
    ใช้ช้อนแคะออกจากหลุมขนมครก วางใส่จาน
    อ้างอิง

สูตร ยำหอยแครง เมนูเด็ดชวนน้ำลายสอ

ถ้าพูดถึงเมนูแซ่บ ๆ ซี้ด ๆ หลายคนคงจะพูดถึงเมนู “ยำหอยแครง” ใช่ไหมล่ะคะ เพราะนอกจากเอาหอยแครงมาลวกจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้ว การเอาหอยแครงมาทำยำนี่ก็เด็ด! ฟินเหมือนเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้า แต่วันนี้จิ๋วจะพาเพื่อน ๆ มาทำยำหอยแครงสูตรยำน้ำใส แบบที่ไม่ใส่พริกเผาแบบทั่ว ๆ ไป จิ๋วบอกเลยว่าสูตรนี้เด็ด จะมีเคล็ดลับยังไงตามจิ๋วมาทำเลย! อ่านต่อได้ที่

ยำ.jpg

หอยแครง ไม่ว่าจะนำมาลวกหรือย่างก็อร่อยจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ นำมาทำเป็นยำก็อร่อยเหมือนกัน นำหอยแครงสดๆ มาลวกให้พอสุก ยำกับสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ซอยและเครื่องยำอีกมากมายพูดแล้วก็เปรี้ยวปากไปดูขั้นตอนการทำกันเลยดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม

  • หอยแครง 1 กิโลกรัม
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • พริกแดงซอย ตามชอบ
  • น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย
  • ตะไคร้ซอย
  • มะม่วงน้ำดอกไม้สับ ครึ่งลูก
  • ใบสะระแหน่

วิธีทำ

  1. ลวกหอยแครงใช้เวลา 1 นาที หากอยากได้แบบสุกมากก็ลวกต่อเป็น 2 นาที เสร็จแล้วแกะหอยออกจากเปลือกวางพักไว้
  2. ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย
  3. ใส่พริกแดงซอยปริมาณตามที่ต้องการ หากต้องเผ็ดก็เพิ่มได้ จากนั้นก็ใส่น้ำพริกเผา หอมแดงซอย ตะไคร้ซอยและมะม่วงสับ คลุกให้เข้ากันแล้วโรยด้วยใบสะระแหน

 

อ้างอิง https://www.wongnai.com

ปราสาทหินพันยอด ที่เที่ยวอันซีนหนึ่งเดียวในไทย ขุมทรัพย์กลางทะเลสตูล

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวทางทะเลจังหวัดสูตลเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคิดถึงเกาะหลีเป๊ะ และเกาะตะรุเตามาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเกาะสวยทั้งสองแห่งนี้มีผู้คนเดินทางไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

ภาพ2.jpg

สำหรับใครที่ไม่ต้องการไปพบเจอกับความวุ่นวายและอยากจะพบกับอันซีนของจังหวัดสตูลที่แท้จริง วันนี้ เราจะพาไปดูกับครับ กับปราสาทหินพันยอดอัญมณีลับที่ซ่อนความสวยงามไว้อยู่ในทะเลสตูล

การเดินทางไปปราสาทหินพันยอดนั้นเริ่มต้นจากการขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบารา โดยเรือที่จะพาเราเดินทางไปในวันนี้จะเป็นเรือหัวโทงเอกลักษณ์ของภาคใต้ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

เมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนพร้อมกันบนเรือไกด์ของเราก็จะทำหน้าที่แนะนำตัวและอธิบายโปรแกรมของเราในวันนี้ พร้อมทั้งให้ข้อมูลแก่เราตลอดระยะเวลาการเดินทาง

ได้เวลาออกเดินทางพี่คนขับพาเราแล่นออกสู่ท้องทะเลที่ถูกโอบล้อมไว้ด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ยอมรับเลยว่าที่นี่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ภูเขาทุกลูกยังถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีทำให้รู้สึกสบายตาเมื่อได้มองจริงๆ

จุดแรกที่เราจะไปกันในวันนี้มีชื่อว่าสันหลังมังกร สันหลังมังกรคืออะไรนั้นต้องตามไปดูกันครับ โดยเมื่อเรือวิ่งมาได้สักพักก็จะถึงจุดที่ต้องแล่นผ่านป่าโกงกาง ซึ่งมีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก

เมื่อวิ่งผ่านป่าโกงกางไปแล้วสันหลังมังกรก็เผยตัวออกมาให้เราได้เห็น สันหลังมังกรที่ว่านี้ก็คือทะเลแหวกนั่นเองครับ ซึ่งบริเวณตรงนี้จะเป็นสันทรายที่สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันได้

มีความขนาดความยาวประมาณ 3-4 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทรายที่นี่ค่อนข้างละเอียดและนุ่มเท้าเอามากๆ วิวโดยรอบก็สวยงาม ทุกคนต่างลงจากเรือมาเดินเล่นบนสันทรายหามุมถ่ายรูปของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน

ในบางมุมถ่ายออกมาแล้วจะเหมือนกับเราว่าตัวเรายืนอยู่บนผืนน้ำเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับโปรแกรมในวันนี้เลยครับสำหรับสันหลังมังกร

เมื่อเก็บภาพความประทับใจกันจนพอใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ ซึ่งเราต้องแล่นเรือผ่านกลับมาที่ป่าชายเลนทางเดิม แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะข้างทางป่าชายเลนนั้นมีเรือคายัคหลายลำผูกติดรอเราไว้อยู่ด้วย

และความสงสัยในใจของเราก็ได้กระจ่างเพราะเรือคายัคเหล่านี้ก็คือกุญแจที่จะพาเราเข้าสู่ปราสาทหินพันยอดนั่นเอง พี่คนเรือจัดการผูกเรือคายัคเข้ากับท้ายเรือหัวโทงแล้วลากเรือคายัคทั้งหมดวิ่งผ่านป่าชายเลนออกสู่ทะเล

ใช้เวลาไม่นานมากนักขบวนเรือคายัคที่ลากมาโดยเรือหัวโทงของเราก็มาอยู่ตรงหน้าปากทางเข้าปราสาทหินพันยอดได้สำเร็จ

และวินาทีที่เรารอคอยก็มาถึงเมื่อเรือคายัคลำของเราค่อยๆ ลอดผ่านประตูหินเข้าสู่ใจกลางปราสาทหินพันยอด เราเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสีน้ำภายในที่จะมีสีออกเขียวๆ แต่ใสมากๆ

ภาพ3.jpg

และมีชายหาดเล็กๆ รอเราอยู่ตรงหน้า เรือมาจอดเทียบให้เราลงที่ชายหาดและเมื่อเราหันหน้าออกสู่ทางประตูหินที่เราเข้ามาเราก็รับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เราได้อยู่ใจกลางปราสาทหินพันยอดสิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลสตูลแล้ว!

อ้างอิง https://www.sanook.com

ภาพประวัติศาสตร์! “ทัพลูกยางสาวไทย” ซิวเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2018

ภาพ1.jpg

ปิดฉากลงไปเรียบร้อยสำหรับ การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เอเชียนเกมส์ 2018 ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย

ซึ่งแม้ สาวนักตบทีมชาติไทย จะไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ หลังเป็นฝ่ายแพ้ “เต็งหนึ่ง” ทีมชาติจีน เจ้าของแชมป์โอลิมปิก 2016 ไป 0-3 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ

อย่างไรก็ตาม การก้าวถึงตำแหน่งรองแชมป์เอเชียนเกมส์ ถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของทัพนักตบลูกยางสาวไทย เพราะนี่คือจุดสูงสุดที่ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สามารถทำได้หลังจากเคยทำได้ดีที่สุดคือเหรียญทองแดงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

โดยผลงานของทัพนักตบลูกยางในการแข่งขันครั้งนี้ปรากฏว่าลงสนาม 7 เกม เก็บชัยได้ถึง 6 เกม และแพ้เพียงแค่เกมเดียวในการพบกับ “นักตบสาวแดนมังกร” นอกจากนี้ยังเสียเพียงแค่ 5 เซต ตลอดทัวร์นาเมนต์เท่านั้น

รอบแบ่งกลุ่ม
ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 เซต
ชนะ ญี่ปุ่น 3-0 เซต
ชนะ ฮ่องกง 3-0 เซต
ชนะ อินโดนีเซีย 3-1 เซต

รอบก่อนรองชนะเลิศ
ชนะ เวียดนาม 3-0 เซต

รอบรองชนะเลิศ
ชนะ เกาหลีใต้ 3-1 เซต

รอบชิงชนะเลิศ
แพ้ จีน 0-3 เซต

อ้างอิง  https://www.sanook.com

 

นิทานอีสป เรื่อง หนูนากับหนูเมือง

ภาบ.jpg

หนูนาชวนหนูเมืองมาเที่ยวบ้านไร่ของมันและเตรียมอาหารต้อนรับอย่างดีไว้ให้กับเพื่อนรักของตน ทั้งธัญพืช เชอร์รี่  แต่เมื่อหนูเมืองเห็นกลับเชิดใส่และพูดว่า “มีแต่อาหารแย่ ๆ ทั้งนั้นเลย ข้าว่าเจ้าเข้าเมืองไปกับข้าดีกว่า ที่นั่นมีอาหารดี ๆ อร่อย ๆ เต็มไปหมด”  หนูนาจึงตัดสินใจเข้าเมืองตามเพื่อนไป มันตื่นตาตื่นใจกับเมืองใหญ่มาก หนูเมืองจึงพูดว่า “เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าในเมืองน่ะสุขสบาย”  

จากนั้นทั้งสองก็พากันเข้าบ้าน ที่นั่นมันพบอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ หนูนาตื่นเต้นมาก ขณะที่ทั้งสองกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย แมวตัวหนึ่งก็กระโจนขึ้นมาบนโต๊ะหวังจะจับพวกมัน หนูทั้งสองตกใจจึงพากันวิ่งหนีสุดชีวิต เมื่อหนีออกมาพ้นหนูนาจึงบอกเพื่อนว่า “ชีวิตในเมืองนั้นสุขสบาย มีอาหารอร่อยให้กินเต็มไปหมดก็จริง แต่ถ้าต้องอยู่อย่างหวาดกลัวเช่นนี้ ข้าขอกลับไปใช้ชีวิตอดอยากที่บ้านไร่อย่างเดิมดีกว่า”

 

:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::

อยู่อย่างยากไร้แต่ปลอดภัย ย่อมดีกว่าอยู่อย่างสุขสบายแต่เต็มไปด้วยความอันตรายรอบตัว

 

:: พุทธภาษิต ::

น เว อนตฺถกุสเลน อตฺถจริยา สุขาวหา.
การประพฤติประโยชน์กับคนไม่ฉลาดในประโยชน์ ไม่นำสุขมาให้เลย.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๕.

อ้างอิง  http://www.kalyanamitra.org

ฟามส์ นครนายก

ภาล.jpg

ผู้ร่วมทริปตัวน้อยพร้อมแล้วก็ออกสตาร์ทรถทันที  บก.พาชิมพาชม ขับออกจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 3049พร้อมแล้วเดินตาม บก.พาชิมพาชม กับหลานๆ มาที่แรก “เด็กเลี้ยงแกะ”  โซนที่เด็กคนไหนเห็นก็ต้องถูกใจเป็นพิเศษ

 

พอเวลาใกล้เที่ยงแดดจะร้อนมากๆ  ต้องขอตัวพาหลานตัวน้อยมาตากแอร์พักเหนื่อย สั่งของอร่อยมาชิมสักหน่อย สำหรับโซนสองเป็นคุณจะได้พบกับความน่ารักของฝูงแกะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนฟู หนาหุ่ม ในบรรยากาศฟาร์มแบบสวิซ ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่โอบล้อมด้วยไออุ่น…….ล

ภาง.jpg

 

ข้อมูล : วังตะไคร้หรือจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์อุทยาน  เป็นแหล่งที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 120 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดนครนายก ประมาณ 16 กิโลเมตร มวลพฤกษชาติ พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ภายในอุทยานแห่งนี้จะออกดอกสะพรั่งตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน ทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในฤดูฝน นอกจากนั้น ยังมีพันธุ์ไม้ นานาชนิด อุทยานวังตะไคร้ จึงเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งความงามตามธรรมชาติ

ที่ตั้ง : 222 หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000

โทรศัพท์ : 037-385-164-5, 081-989-0365

เวลาเปิด-ปิด : 8.00-18.00 น.

การเดินทาง : ใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกสามสาว หลังจากนั้นตรงตลอดจนถึงตัวเมืองนครนายก สังเกตุป้ายน้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง เขื่อนขุนด่านปราการชลให้ไปตามเส้นทางนั้น (ถนนหมายเลข 3049)ผ่านโรงพยาบาลนครนายก วัดหลวงพ่อปากแดง เมื่อถึงไฟจราจรที่แยกสาริกา (หากตรงจะไปน้ำตกสาริกา) ให้เลี้ยวขวาและขับต่อไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ทางเข้าวังตะไคร์จะอยู่ทางซ้าย ถึงก่อนน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร หากวิ่งข้ามสะพานไปอีกเล็กน้อย จะพบทางเข้าเขื่อนขุนด่านปราการชลทางขวามือ

อุทยานวังตะไคร้ เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ ประดับนานาพันธุ์ ในเนื้อที่ 1,500 ไร่มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมใน บริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภท เช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม

อ้างอิง  http://www.tournakhonnayok.com

ทุ่งบัวเเดง เมืองอุดรธานี

ทะเลบัวแดง อุดรธานี 2560 ชมพูสะพรั่งบานรับลมหนาว

ทะเลบัวแดง-1.jpg

 

ชวนไปชมความสวยงามของทะเลบัวแดง บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ที่เริ่มบานสะพรั่งในบึงกว้างใหญ่หลายหมื่นไร่ ท่ามกลางอากาศเย็นสบายและสายหมอกยามเช้า   

เริ่มกลับมาบานอีกครั้งแล้วกับทะเลบัวแดง อุดรธานี 2560 เป็นทะเลบัวแดงที่สวยและใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ที่จะบานสะพรั่งในทุก ๆ ฤดูหนาว ท่ามกลางบึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ทางภาคใหญ่อีสาน เป็นสถานที่ชมดอกไม้หน้าหนาวสวย ๆ ที่คุณต้องไม่พลาด

ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวชมดอกไม้หน้าหนาวแบบสวยงามตระการตา หนาวนี้ต้องไปสัมผัสกับทะเลบัวแดง อุดรธานี 2560 กันค่ะ

โดยสื่อท้องถิ่นของจังหวัดอุดรธานีได้มีการรายงานว่าขณะนี้ทะเลบัวแดง อุดรธานี ที่บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปีนั้น ได้เริ่มเบ่งบานแล้ว และคาดว่าจะมีให้ชมไปจนถึงประมาณกลางเดือนมีนาคม 2561 เลยทีเดียวทะเลบัวแดง อุดรธานี มักจะเบ่งบานสีชมพูสะพรั่งในทุกฤดูหนาว โดยจะบานไปทั่วพื้นที่ส่วนหนึ่งของบึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี รวมพื้นที่กว่าหมื่นไร่ โดยทางชุมชนได้มีการจัดเรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมทะเลบัวแดงกันอย่างใกล้ชิด ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชมทะเลบัวแดง อุดรธานี จะอยู่ในช่วง 06.00-11.00 น. โดยเฉพาะยามเช้าที่จะได้เห็นดอกบัวแดงชูช่อล้อกับสายหมอกบาง ๆ รับกับแสงตะวันสีทองอย่างสวยงาม

ขาน.jpg

 

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อลงเรือนำเที่ยวได้หลายจุด เช่น ท่าเรือบ้านเดียม (ท่าเรือหลัก), ท่าเรือบ้านโนนน้ำย้อย, ท่าเรือบ้านแชแล ฯลฯ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณไพรสิทธิ์ สุขรมย์ (ประธานกลุ่มเรือฯ) โทรศัพท์ 08 9395 0871

ค่าบริการเรือนำเที่ยวเช่าเหมาลำ จะมี 2 ราคา คือ 300 บาท และ 500 บาท โดยราคาที่แตกต่างกันนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะทาง และตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป เรือจะนั่งได้ลำละ 5 ท่าน

ทั้งนี้ทางเพจ Udongraphy ได้แนะนำข้อน่ารู้การไปเที่ยวทะเลบัวแดง อุดรธานี ไว้ให้นักท่องเที่ยวมือใหม่ที่จะไปเที่ยวทะเลบัวแดง อุดรธานี ดังนี้

 

เวลาที่เหมาะกับการชมบัวคือประมาณ 06.00-09.00 น. เพราะพระอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 6 โมงเช้าเป็นต้นไป ถ้าอยากสัมผัสไอเย็นและแสงแดดยามเช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งเราจะได้เห็นการเริ่มต้นของระบบนิเวศน์บริเวณนั้น

ข้อแนะนำ : สำหรับท่านที่ต้องการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ควรมาถึงท่าเรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 10-15 นาที เพราะต้องเผื่อเวลานั่งเรือด้วยครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะคือ เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่บัวจะมีปริมาณเยอะมากที่สุด โดยจากการสำรวจและสอบถามคนขับเรือของทีมงาน พบว่าปี 2560 นี้ ปริมาณบัวจะเยอะมากกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณน้ำที่เยอะ ชะล้างสิ่งสกปรก และสาหร่ายต่าง ๆ ทำให้ปีนี้โอกาสที่บัวจะเกิดมีได้มากกว่าปีที่ผ่านมา

ข้อแนะนำ : เนื่องจากทะเลบัวแดงที่เราเห็นมีหลายแปลง ระยะเวลาที่บัวจะเกิดให้เต็มทุกแปลงจะอยู่ประมาณหลังวันที่ 15 ธันวาคม (จากการสอบถามคนขับเรือ) จะขึ้นครบทุกแปลงซึ่งกินเนื้อที่มากถึง 10,000 ไร่

เรือจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ เรือเล็ก : ราคา 300 บาท/ลำ นั่งได้ 2 – 3 คน และเรือใหญ่ : ราคา 500 บาท/ลำ นั่งได้ 8 คน

*** เรือทุกลำมีเสื้อชูชีพให้เพื่อความปลอดภัย ***

ข้อแนะนำ : เรือเล็กจะให้ภาพที่สวยกว่าเนื่องจากจะสามารถเปิดหลังคาได้ ทำให้เห็นบัวได้เยอะกว่า แต่เนื่องจากลำเล็กทำให้มีอาการโคลงของเรือ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุสักเท่าไรครับ

อ้างอิง https://travel.kapook.com

บ้าน 3 หลัง 3 จังหวัดของผู้ชายดื้อเพราะความเชื่อ “ตูน บอดี้สแลม”

ตุน.jpg

 

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาพยนตร์สารคดี 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว ภาพยนตร์ที่นำเสนอโครงการ ก้าวคนละก้าว ที่ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องนำวง Bodyslam ตลอดการวิ่ง 55 วัน จากเบตงถึงแม่สาย ในแง่มุมที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำตลอดระยะเวลา 55 วันได้พิสูจน์ถึงความเชื่อที่แรงกล้าของเขาในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดผู้ชายที่ชื่อตูน บอดี้สแลมถึงประสบความสำเร็จและกลายเป็นฮีโร่ของใครหลายๆ คน

 

Sanook! Home จึงอยากพาทุกคนไปย้อนชมผลแห่งความสำเร็จของผู้ชายคนนี้ในรูปแบบของการสร้างบ้าน ซึ่งสำหรับหลายๆ คนก็น่าจะเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกันกับตูน สำหรับบ้านของตูน บอดี้สแลมนั้นมีอยู่ทั้งหมด 3 หลัง 3 จังหวัด ทั้งบ้านที่กรุงเทพฯ บ้านที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และบ้านที่จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดบ้านเกิด

1.บ้านตูน บอดี้สแลมที่กรุงเทพฯ

บ้านที่กรุงเทพฯ น่าจะเป็นที่พักผ่อนที่ตูน บอดี้สแลม ใช้เวลาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะเดินทางไปร้องเพลงต่างจังหวัดบ่อยๆ แต่บ้านที่กรุงเทพฯ ก็เป็นบ้านที่น่าพักผ่อนของตูน บอดี้สแลมไม่แพ้บ้านอีก 2 หลังเพราะร่มรื่น น่าอยู่ แถมยังมีห้องซ้อมดนตรี ทำงานเพลงเป็นห้องขนาดใหญ่ และเพื่อนซี้สี่ขาที่น่ารัก

 

2.บ้านตูน บอดี้สแลมที่สุพรรณบุรี

บ้านที่จังหวัดสุพรรณบุรีหลังนี้เป็นบ้านเรือนไทยที่ตูน ควักกระเป๋ารีโนเวทบ้านหลังเดิมเพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานให้กับคุณพ่อ-คุณแม่ของตนเอง ซึ่งกว่าจะมาเป็นเรือนไทยหลังงามหลังนี้บ้านหลังนี้มีเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ เพราะพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งเดิมเคยเป็นโรงสีธุรกิจตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ต่อมาส่งต่อมายังรุ่นคุณพ่อ

แต่เดิมมีบ้าน 2 หลังในพื้นที่เดียวกัน หลังหนึ่งเป็นบ้านที่ตูนเกิด อาศัยและวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็กในรูปแบบเรือนครึ่งตึกครึ่งไม้ ส่วนเรือนไม้อีกหลังเป็นบ้านเรือนไทย ส่วนอีกหลังตูนสร้างขึ้นใหม่เพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่อยู่ในช่วงที่ตนเองไปเรียนและทำงานที่กรุงเทพฯ พื้นที่รอบตัวบ้านมีต้นไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆ มากมาย จึงทำให้บริเวณรอบบ้านร่มรื่น ในที่สุดเมื่อตูนมีชื่อเสียง ทำงาน มีเงินจึงตัดสินใจรีโนเวทบ้านหลังนี้เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คุณพ่อกับคุณแม่

3.บ้านตูน บอดี้สแลมที่บางสะพาน

บ้านพักตากอากาศติดริมทะเลที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์น่าอยู่มาก เพราะเป็นบ้านติดริมทะเล ตัวบ้านเป็นอาคารสองหลังที่อยู่ขนานกัน ตรงกลางมีสระน้ำขนาดย่อมๆ ด้านหน้าตัวบ้านเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่หาดส่วนตัวด้านหน้า ที่เด็ดกว่านั้นคือวิวสะพานที่ทอดตัวยาวลงไปใน

สำหรับภาพยนตร์สารคดี 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว จะฉายให้ชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 6-16 กันยายน 2561 ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ วันจันทร์-ศุกร์ ฉายให้ชม 1 รอบ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ฉายให้ชม 2 รอบ อีกทั้งยังมีการเชิญชวนให้ร่วมบริจาคเงินเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อาคารหลังสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราช และผลิตบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ต่อไป โดยมี คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ให้คนไทยได้ชมฟรีจำนวน 720,000 ที่นั่งอีกด้วย

อ้างอิง www.sanook.com

เทคนิคแต่งห้อง

 

ภาพกพ.jpg

คุณพ่อคุณเเม่อาจจะคิดว่าสภาพเเวดล้อมภายในห้องอาจจะไม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูก เเต่รู้ไหมว่า แท้จริงแล้วการที่จะช่วยให้ลูกน้อยยิ่งเก่งยิ่งฉลาดได้นั้น สามารถทำได้ง่ายสุดๆ ด้วยการเเต่งห้อง

การตกเเต่งห้องลูกช่วยให้ลูกฉลาดอย่างไร หลายคนอาจสงสัย หลักๆ เเล้ว ผ่านการมองเห็น การกระตุ้นการมองเห็นของลูกในวัยเเรกเกิดจนถึงวัยทารก คือเรื่องที่ง่ายที่สุดที่คุณพ่อคุณเเม่สามารถทำได้ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาไอคิวให้สูงยิ่งขึ้น ซึ่งในวันนี้เรามี 5 เทคนิคในการตกแต่งห้องมาฝาก

1.โมบาย
แม้การเคลื่อนที่ไปช้าๆ ของวัตถุต่างๆ จะช่วยให้ลูกน้อยฝึกทักษะการมองตามวัตถุที่เคลื่อนที่ ซึ่งในบางครั้งคุณพ่อคุณเเม่จะเห็นว่า ลูกใช้เวลาจ้องมองวัตถุชิ้นที่เขาต้องการชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปขว้าเอามา เเต่ช่วงเเรกเกิดลูกจะยังไม่สนใจที่จะมองเท่าไหร่นัก เพราะทักษะการทำงานประสานกันระหว่างสายตา การสัมผัส เเละการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กเเละใหญ่ ยังอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่

2. ไฟกลางคืน 
เด็กเเรกเกิดสามารถนอนในห้องที่มืดสนิทในช่วง 2-3 เดือนเเรก เพราะเซลล์รับเเสงในม่านตาของลูกยังอยู่ในช่วงที่พัฒนา ดังนั้นเลยยังทำงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นการติดไฟกลางคืนตั้งเเต่เเรกเกิดจึงยังไม่จำเป็น

3. วัตถุรูปทรงต่างๆ
เด็กๆ ชอบที่จะมองเหลี่ยมมุมของวัตถุที่มีรูปทรงต่างๆ ที่เป็น 2 มิติ จริงๆ เเล้ว เวลาที่ลูกมองหน้าคุณพ่อคุณเเม่ก็จะมองที่ตีนผมที่เป็นจุดตัดระหว่างใบหน้ากับผมที่มีสีตัดกันนะคะ โดยมีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้ทำการทดลองกับเด็กเเรกเกิดที่มีอายุเพียง 4 วันเท่านั้น เวลาที่เอารูปภาพของคุณเเม่ให้ดูเด็กจะจ้องมองดูนานกว่าภาพของคนเเปลกหน้า ส่วนเด็กที่มีอายุได้ 2 ขวบ จะเริ่มสนใจส่วนประกอบที่อยู่บนใบหน้า เเละเด็กที่โตกว่านั้นจะจำหน้าเเม่ได้เเม้จะเปลี่ยนสีผมหรือใส่เเว่น

ดังนั้นหากคุณพ่อคุณเเม่อยากให้ลูกจำหน้าตัวเองได้ อย่าใส่ผ้าคลุมผม หนวดปลอม จมูกยาง (หรือถ้าจะเเกล้งลูกก็ทำตรงกันข้าม เเต่ไม่เเนะนำ)

4. สีหลากหลาย
ตาของเด็กทารกเเรกเกิดมีความไวต่อสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีที่ตัดกันเช่น ขาวกับดำ เเละเฉดสีเทาที่มีหลากหลาย เเละเมื่อลูกอายุได้สัปดาห์กว่าๆ ก็จะมองเห็นสีเเดง สีส้ม สีเหลือง เเละสีเขียว เเต่ก็ใช้เวลาถึง 5 เดือนในการเเยกเเยะระหว่างสีเเดงเเละสีส้ม ดังนั้นการเเต่งห้องให้ลูกด้วยสีที่หลากหลายมากกว่าเเค่สีสดๆ ก็จะทำให้ลูกได้ใช้เวลาในการเเยกเเยะสีเเละรู้ถึงความเเตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ได้

5. ห้องเรียบๆ VS ห้องรกๆ
การตกเเต่งเเบบเรียบๆ หรือรกๆ นั้นดีต่อความฉลาดของลูก สิ่งที่เหมาะสมคือกลางๆ พอดีๆ ห้องที่เรียบมากไป ไม่เหมาะต่อการเลี้ยงลูก เพราะเเน่นอนว่ามันน่าเบื่อ (เเม้คุณพ่อคุณเเม่อาจจะมองว่ามันเรียบหรูก็ตาม) เเละเเน่นอนว่าห้องที่รกเกินไป ลูกก็ไม่รู้ว่าจะสนใจอะไรดี โดยเรื่องนี้ถึงกับมีการทดลองเลย

สิ่งที่น่ารู้ 
เด็กทารกมีการมองเห็นที่เเตกต่างจากผู้ใหญ่ สิ่งที่เเน่นอนคือลูกนั้นสายตาสั้นมากกว่าเรา เเละมีการมองเห็นที่เเคบกว่า ขณะที่ผู้ใหญ่สามารถมองเห็นสีเเละความเร็วในการเคลื่อนไหวได้ เเต่เด็กๆ นั้นทำไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่จะที่ช่วยให้ลูกมองเห็นได้ดีขึ้น คือ การมองสิ่งของต่างๆ บ่อยๆ เพื่อให้การมองเห็นของลูกได้พัฒนา

อ้างอิง https://www.sanook.com

เราคือเบียงโคเนรี่! “โรนัลโด้” พร้อมครอบครัวถ่ายรูปชุดยูเวนตุส

 

2ส.jpg

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส ของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศตัวเป็นสาวกเบียงโคเนรี่ แบบเต็มตัวด้วยการให้ทุกคนในครอบครัวสวมชุดแข่งสโมสรใหม่ของเจ้าตัวแบบพร้อมหน้า

โดยดาวเตะวัย 33 ปี พร้อม จอร์จิน่า โรดริเกซ แฟนสาว และลูกๆ ทั้ง 4 คน ต่างพร้อมใจกันสวมชุดแข่งยูเวนตุส ก่อนโพสต์ภาพลงใน อินสตาแกรม เพื่อบอกให้แฟนๆ ได้รับรู้ว่าถึงตอนนี้ครอบครัวของเขากลายเป็นสาวกม้าลายแบบเต็มตัว

สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตัดสินใจย้ายออกจาก เรอัล มาดริด อดีตต้นสังกัดในลา ลีกา สเปน ที่เขาค้าแข้งนานถึง 9 ปี เพื่อหาความท้าทายใหม่ๆ หลังสามารถคว้าถ้วยแชมป์ทุกรายการมาครองได้หมดแล้ว ด้วยค่าตัวสูงถึง 105 ล้านยูโร (ประมาณ 4,200 ล้านบาท)

พร้อมกันนี้เจ้าตัวได้ลงประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่ในเกมลีกไปเรียบร้อย ในเกมที่บุกไปเบียดเอาชนะ คิเอโว่ 3-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกับวันเสาร์นี้ เจ้าตัวเตรียมลงสนามในรังเหย้าครั้งแรกในเกมพบ “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ

อ้างอิง https://www.sanook.com